วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

รามเกียรติ์

รามเกียรติ์สำคัญเรื่องหนึ่งของไทย โดยมีต้นเค้าจากวรรณคดีอินเดีย คือมหากาพย์รามายณะที่ฤๅษีวาลมีกิ[1] ชาวอินเดีย แต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต เมื่อประมาณ 2,400 ปีเศษ[2] เชื่อว่าน่าจะเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากอิทธิพลของลัทธิพราหมณ์ฮินดู โดยแฝงไว้ซึ่งคติยกย่องพระมหากษัตริย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอวตารของพระนารายณ์[3]
สำหรับเรื่องรามเกียรติ์ ของไทยนั้น มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ทรงพระราชนิพนธ์สำหรับให้ละครหลวงเล่น ปัจจุบันมีอยู่ไม่ครบ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1 ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีมาแต่เดิมให้ครบถ้วน สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เพื่อให้ละครหลวงเล่น โดยได้ทรงเลือกมาเป็นตอน ๆ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ โดยใช้ฉบับของอินเดีย (รามายณะ) มาพระราชนิพนธ์ ใช้ชื่อว่า "บ่อเกิดรามเกียรติ์"

ประวัติ

ต้นเค้าของเรื่องรามเกียรติ์มาจากเรื่องรามายณะ ของอินเดีย ซึ่งเป็นนิทานที่แพร่หลายอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้ ต่อมาอารยธรรมอินเดียได้แพร่หลายเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พ่อค้าชาวอินเดียได้นำอารยธรรมและศาสนาเข้ามาเผยแพร่ด้วย ทำให้เรื่องรามายณะแพร่หลายไปทั่วภูมิภาค กลายเป็นนิทานที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นจนกลายเป็นวรรณคดีประจำชาติไป ดังปรากฏในหลายๆชาติ เช่น ลาว พม่า เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซีย ล้วนมีวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เป็นวรรณคดีประจำชาติ ลัดดา

โครงเรื่อง

เหตุเกิดเมื่อนนทกไปเกิดใหม่เป็นทศกัณฐ์มีสิบหน้ายี่สิบมือตามคำพระนารายณ์ก่อนนั้นเมื่อพระนารายณ์สังหารนนทกแล้ว ได้ไปขอพระอิศวรจะให้เหล่าเทวดา และตนไปตามสังหารนนทกในชาติหน้า หลังจากนั้น ทหารเอกทั้งห้า จึงเกิดตามกันไป ได้แก่ หนุมานเกิดจากเหล่าศาสตราวุธของพระอิศวรไปอยู่ในครรภ์นางสวาหะ สุครีพ เกิดจากพระอาทิตย์แล้วโดนคำสาปฤๅษีที่เป็นพ่อของนางสวาหะ องคต เป็นลูกของพาลีที่เป็นหลานของสุครีพ ชมพูพาน เกิดจากการชุบเลี้ยงของพระอินทร์ นิลพัท เป็นลูกของพระกาฬ ฝ่ายพระรามและฝ่ายทศกัณฑ์ได้เกิดศึกชิงนางสีดา จนไพร่พลฝ่ายยักษ์ล้มตายเป็นจำนวนมาก และสุดท้าย ทศกัณฑ์เองก็ถูกพระรามฆ่าตายเช่นเดียวกันฃ

ตัวละครหลัก


ฝ่ายพระราม (มเหศรพงศ์ และ วานรพงศ์)



อ้างอิง

กาแล็กซีทางช้างเผือก

กาแล็กซี (Galaxy) หรือ ดาราจักร หมายถึง อาณาจักรของดาว กาแล็กซีหนึ่งๆ ประกอบด้วยก๊าซ ฝุ่น และดาวฤกษ์หลายพันล้านดวง กาแล็กซีมีขนาดใหญ่หมื่นล้านถึงแสนล้านปีแสง “ทางช้างเผือก” เป็นกาแล็กซีของเรามีขนาดประมาณหนึ่งแสนปีแสง เนื่องจากโลกของเราอยู่ภายในทางช้างเผือก (ภาพที่ 1) การศึกษาโครงสร้างของทางช้างเผือก จำต้องศึกษาจากภายในออกมา การศึกษากาแล็กซีอื่นๆ จึงช่วยให้เราเข้าใจกาแล็กซีของตัวเองมากขึ้น








          แต่โบราณมนุษย์เข้าใจว่า ทางช้างเผือกเป็นปรากฏการณ์ภายในบรรยากาศโลกเช่นเดียวกับเมฆ หมอก รุ้งกินน้ำ จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้มีการสร้างกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่จึงทราบว่า ทางช้างเผือกประกอบด้วยดวงดาวมากมาย เซอร์ วิลเลียม เฮอร์เชล (ผู้ค้นพบดาวยูเรนัส) ทำการสำรวจความหนาแน่นของดาวบนท้องฟ้าและให้ความเห็นว่า ดวงอาทิตย์อยู่ตรงใจกลางของทางช้างเผือก ศตวรรษต่อมา ฮาร์โลว์ แชพลีย์ ทำการวัดระยะทางของ กระจุกดาวทรงกลมซึ่งห่อหุ้มกาแล็กซี โดยใช้ความสัมพันธ์คาบ-กำลังส่องสว่างของดาวแปรแสงแบบ RR Lyrae ที่อยู่ในกระจุกดาวทรงกลมทั้งหลาย เขาพบว่ากระจุกดาวเหล่านี้อยู่ห่างจากโลกนับหมื่นปีแสง รอบล้อมส่วนป่องของกาแล็กซี ดังนั้นดวงอาทิตย์ไม่น่าจะอยู่ตรงใจกลางของทางช้างเผือก

ภาพที่ 2 โครงสร้างของกาแล็กซีทางช้างเผือก
          กาแล็กซีทางช้างเผือก (The Milky Way Galaxy) เป็นกาแล็กซีแบบกังหัน มีดาวประมาณแสนล้านดวง มวลรวมประมาณ 9 หมื่นล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์ แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1.จาน (Disk) ประกอบด้วยแขนของกาแล็กซี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100,000 ปีแสง หนาประมาณ 1,000 – 2,000 ปีแสง มีดาวฤกษ์ประมาณ 400,000 ล้านดวง องค์ประกอบหลักเป็นฝุ่น ก๊าซ และประชากรดาวประเภทหนึ่ง (Population I) ซึ่งมีสเปคตรัมของโลหะอยู่มาก
2.ส่วนโป่ง (Bulge) คือบริเวณใจกลางของกาแล็กซี มีขนาดประมาณ 6,000 ปีแสง มีฝุ่นและก๊าซเพียงเล็กน้อย องค์ประกอบหลัก เป็นประชากรดาวประเภทหนึ่งที่เก่าแก่ และประชากรดาวประเภทสอง (Population II) ซึ่งเป็นดาวเก่าแก่แต่มีโลหะเพียงเล็กน้อย
3.เฮโล (Halo) อยู่ล้อมรอบส่วนโป่งของกาแล็กซี มีองค์ประกอบหลักเป็น “กระจุกดาวทรงกลม” (Global Cluster) จำนวนมาก แต่ละกระจุกประกอบด้วยดาวฤกษ์นับล้านดวง ล้วนเป็นประชากรดาวประเภทสอง นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่า กระจุกดาวทรงกลมเป็นโครงสร้างเก่าของกาแล็กซี เพราะมันโคจรขึ้นลงผ่านส่วนโป่งของกาแล็กซี
          การศึกษาทางช้างเผือกทำจากด้านในออกไป จึงยากที่จะเข้าใจภาพรวมว่า กาแล็กซีของเรามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ประกอบกับระนาบของทางช้างเผือกหนาแน่นไปด้วยดาว ฝุ่น และก๊าซ เป็นอุปสรรคกีดขวางการสังเกตการณ์ว่า อีกด้านหนึ่งของกาแล็กซีเป็นอย่างไร อุปกรณ์ที่ใช้ศึกษาโครงสร้างของกาแล็กซีได้ดีที่สุดก็คือ กล้องโทรทรรศน์อินฟราเรด (ภาพที่ 3) เพราะว่าใช้คลื่นยาวซึ่งสามารถเดินทางผ่านกลุ่มก๊าซและฝุ่นได้












                                                                                                                                                                                     ภาพที่ 3 ภาพถ่ายอินฟราเรดของกาแล็กซีทางช้างเผือก

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ขิม




มันมีที่มาอย่างไร?

ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914