วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประวัติความเป็นมาของเปียโน (ส่งอาจารย์)

ประวัติความเป็นมาของเปียโน


 

เปียโน

เป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่สร้างเสียงเมื่อคีย์ถูกกดและกลไกภายในเครื่องตีสาย คำว่าเปียโนเป็นตัวย่อของคำว่า เปียโนฟอร์เต [ Pianoforte ] ซึ่งเป็นคำภาษาอิตาเลียนที่ แปลว่า "เบาดัง" มาจากความสามารถของเปียโนที่จะปรับความดังเบาตามแรงที่กดคีย์ ในฐานะเครื่องสายเปียโนมีความคล้ายคลึงกับคลึงคลาวิคอร์ด[ Clavichord ] และฮาร์พซิคอร์ด [ Harpsichord ] จะแตกต่างกันเพียงวิธีการสร้างเสียง สายฮาร์พซิคอร์ดจะถูกดีดหรือเกาโดยขนนก ส่วนสายของคลาวิคอร์ดจะถูกเคาะด้วยกลไกที่จะยังคงสัมผัสกับสายอยู่ตลอดเวลาหลังการเคาะ เพื่อบังคับความถี่ของการสั่นส่วนสายเปียโนถูกเคาะด้วยลิ่มที่สะท้อนกลับในทันที เพื่อให้เกิดการสั่นของสายอย่างเป็นอิสระ เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในดนตรีคลาสสิกตะวันตก ดนตรีแจ๊ซ ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และดนตรีอีกหลายรูปแบบเปียโนยังเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ชนชั้นกลางและชนชั้นสูง

เปียโนถูกคิดค้นขึ้นที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยบาร์โทโลเมโอ คริสโตโฟรี รายละเอียดเวลาที่คริสโตโฟรีประดิษฐ์เปียโนเครื่องแรกนั้นไม่ชัดเจน แต่จากบันทึกของครอบครัวเมดิชิ ผู้ที่ว่าจ้างคริสโตโฟรี ปรากฏว่ามีเปียโนตั้งแต่ปี คศ. 1700 คริสโตโฟรีสร้างเปียโนอีก 20 เครื่องก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี คศ. 1731 และเปียโน 3 ตัวของเขาที่ยังคงอยู่ในปัจจุบันย้อนมาจากช่วงปี คศ. 1720







การเริ่มต้นของเปียโน



ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของซีกโลกตะวันตก เกือบทุกบ้านเรือนมีเปียโนในครอบครอง เปียโนสามารถนำไปเล่นเดี่ยวๆ (solo)เล่นเป็นวงเช่น orchestra เป็นอุปกรณ์ประกอบการแต่งเพลง หรือแม้กระทั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็ยังได้ จนคนนับล้านไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มีความสุขกับการได้สัมผัส ทั้งเล่น ทั้งฟัง หรือแม้กระทั่งยืนดูมันเฉยๆ เครื่องดนตรีไม่ว่าประเภทใดก็เล่นไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ที่หัดใหม่ แม้กระนั้น เปียโนก็เป็นอุปกรณ์ทางดนตรีชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดคนให้สนใจมัน นอกจากนักเปียโนจะสนใจในการเล่นแล้ว บางครั้งพวกเขาก็ยังอยากจะเรียนรู้ถึงการเลือก การดูแลรักษา รวมถึงวิวัฒนาการ การทำงาน ลักษณะของมันอีกด้วย เราสามารถแบ่งอุปกรณ์ประเภทสายซึ่งนับว่าเป็นบรรพบุรุษของเปียโนในอดีตได้เป็น 2 แบบหลักๆ ดังนี้




-อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยการดีด และดึง




-อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยการตีหรือเคาะ




คนในยุคแรกๆจะเล่นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะเป็นพิณตั้ง เล่นด้วยการดีด และการตี สำหรับพิณที่เล่นด้วยการดีดในภายหลังได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติมส่วนที่เป็นบอร์ดเข้าไปด้านล่างเพื่อให้เกิดเสียงที่ดังกังวาลเพิ่มขึ้น จนต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นอุปกรณ์ทางดนตรีที่เรียกว่า ฮาร์พซิคอร์ด ในขณะที่พิณที่เล่นด้วยการตีหรือการเคาะ ได้พัฒนาเรื่อยมา จนเป็นอุปกรณ์ที่ในปัจจุบันเรียกว่า เปียโน

การพัฒนาการต่างๆของเปียโน
เปียโน เหมือนการพัฒนาทางเทคโนโลยีอื่นๆ มีรากฐานมาจากพัฒนาการณ์ของฮาร์พซิคอร์ดตลอดหลายศตวรรษ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการผลิตแผ่นขยายเสียง โครง และ คีย์บอร์ด คริสโตโฟรีเองก็เป็นผู้ผลิตฮาร์พซิคอร์ด ความสำเร็จใหม่ที่สำคัญของคริสโตโฟรีคือการให้ค้อนตีสายเปียโนโดยไม่ค้างอยู่กับสาย (เพื่อให้เสียงที่ชัด)นอกจากนั้น ตัวค้อนยังจำเป็นที่จะต้องกลับสู่ตำแหน่งเดิมโดยไม่ดีดหรือเด้งอย่างรุนแรง และที่สำคัญ เปียโนยังจำเป็นที่จะเล่นโน้ตที่รัวได้ เปียโนตัวแรกๆ ของคริสโตโฟรี ทำขึ้นมาด้วยสายที่บางกว่าเปียโนปัจจุบัน ทำให้เสียงนั้นเบากว่าเปียโนปัจจุบันมาก แต่เมื่อเทียบกับคลาวิคอร์ด (เครื่องดนตรีเพียงชนิดเดียวในยุคนั้นที่สามารถควบคุมความเบาหรือดัง) เปียโนมีความดังมากกว่า เครื่องดนตรีใหม่นี้ไม่ได้รับความสนใจมากนัก จนนักเขียนชาวอิตาลีนามว่า สกีปีโอเน่ มาเฟอี (Scipione Maffei )ได้เขียนและตีพิมพ์บทความ (คศ. 1711) ที่พูดอย่างน่าตื่นตาตื่นใจถึงข้อดีของเปียโนมาเฟอีได้รวมแบบของเปียโนไว้ในบทความและกระตุ้นให้ผู้ผลิตอื่นๆ เริ่มที่จะสร้างเปียโนตามแบบของคริสโตโฟรี การผลิตเปียโนเข้าสู่ยุครุ่งเรืองในปลายศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะในหมู่ผู้ผลิตเปียโนแห่งกรุงเวียนนา ซึ่งรวมถึงโยฮัน แอนเดรียส สไตน ( Johann Andreas Stein) และแนนเนต์ สไตน ( Nannette Stein ) ลูกสาวของโยฮัน แอนเดรียสเปียโนเวียนนานั้นมีโครงไม้ สายสองเส้นต่อโน้ต และค้อนหนัง 

 นักประพันธ์ชื่อดังอย่าง โวล์ฟกัง อะมาเดอุสโมซาร์ท(Wolfgang Amadeus Mozart)เองก็ได้ประพันธ์เพลงเพื่อเล่นบนเปียโนชนิดนี้ เปียโนในยุคของโมซาร์ทนั้นมีเสียงที่ใสกว่าปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้มีพลังเสียงน้อยกว่าเปียโนในปัจจุบัน ในปัจจุบัน คำว่าฟอร์เตเปียโน [ Forte piano ]ใช้แยกแยะระหว่างเปียโนยุคศตวรรษที่ 18 และเปียโนในปัจจุบัน



การแพร่ขยายของเปียโน
เครื่องดนตรีและแนวความคิดของ Cristofori ได้แพร่ขยายออกไปทั่วยุโรป โดยนักดนตรีจากต่างภาษาต่างเชื้อชาติ ซึ่งได้เดินทางไปตามที่ต่างๆ เช่น ชาวอิตาเลียน นักร้องตามสำนักกษัตริย์ หรือเชื้อพระวงศ์ ได้นำออกไปเผยแพร่ กล่าวกันว่าได้รับการต้อนรับจากราชวงศ์โปรตุเกสในยุครุ่งเรืองของกษัตริย์ King Joao V. ซึ่งมั่งคั่งมาจากการมีสินค้าจากแหล่งในอเมริกาใต้ ทองและเพชรในบราซิล เขาได้สร้างโอเปร่าเฮ้าซึ่งได้นำเอานักร้องและนักดนตรีมามากมาย โดยมีเครื่องดนตรีของ Cristofori รวมอยู่ด้วย เป็นผลทำให้เครื่องดนตรีของ Cristofori ได้รับความนิยมและมีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีอย่างฮาพซิคอร์ด ในช่วงปี 1755 เปียโนฟอร์เต้ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และจากการที่กษัตริย์ King Carlos III ปี1759-1788 ของสเปนไม่ชอบดนตรีจนทำลายเปียโนไปเป็นจำนวนหนึ่ง เปียโนที่เก่าแก่ที่สุด 2 ตัวเป็นของ Francisco Perez Mirabel ของ Seville อยู่ในยุคปี 1745 ซึ่งมีลักษณะการออกแบบคล้ายกับของ Cristofori อย่างมาก เปียโนของ Cristofori ได้รับความนิยมไม่ใช่เพียงแค่ในทางตะวันตกเท่านั้น แต่กระจายขึ้นไปทางเหนือด้วย เช่น ในเยอรมันมีหลักฐานการตีพิมพ์ในนิตยสารของ Maffei เกี่ยวกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ แต่เป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีนักผลิตเปียโนในเยอรมันประสบความสำเร็จ แม้กระนั้นเมืองมากกว่า 20 เมืองในบริเวณนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยเดิมผลิต ฮาพซิคอร์ดได้เปลี่ยนมาผลิตเปียโนแทน ผู้ผลิตเปียโนในเยอรมันที่มีชื่อเสียงได้แก่ Silberman เปียโนของเขาถูกผลิตขึ้นในช่วงปี 1730ในอังกฤษ ประมาณปี 1740 มีเปียโนแค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งถูกผลิตโดยนักบวชชาวอังกฤษ โดยใช้ไม้จากอิตาลี ในปี 1756 ช่วงที่มีสงคราม 7 ปี เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการผลิตอุปกรณ์ดนตรีจากที่ผลิตแซกโซโฟนมาผลิตเปียโนแทน และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เปียโนมาจากสิ่งใด
เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่ง เปียโนเป็นการขยายแนวความคิดมาจากพิณ ซึ่งความจริง แล้วถ้าเราสังเกตดูลักษณะรูปร่างของเปียโน จะเห็นว่ามัน มีลักษณะเหมือนพิณที่บรรจุอยู่ในหีบ นอกจากนี้ลักษณะ ความ โค้งของพิณและเครื่องสายที่อยู่ในเปียโนก็มีลักษณะ เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของการขึงสาย ซึ่งจะมีความ หนาและบางต่างกัน ส่งผลให้ระดับเสียงจะ มีความแตกต่างกัน เมื่อดีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายของเปียโนที่มีความหนาและ ความยาวที่บรรจุอยู่ภายใน ทำให้เปียโนมีเสียงที่แตกต่าง และมีระดับเสียงที่มากกว่านอกจากนี้เมื่อดีดเปียโนที่หนัก แน่นหรือเบากว่า ก็ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างมากขึ้น ประวัติโดยตรงของเปียโนนั้นเปียโนมีต้นกำเนิดมจาก เครื่องดนตรีสองชนิด ได้แก่ ซอสเตอร์รี่(psaltery) และ ดูซิเมอร์ (dulcimer) โดยซอสเตอร์รี่ มีลักษณะเป็นกล่อง ตื้นๆที่ขึงสายขวางกันไว้ ที่ด้านบนสุดเพื่อดีด ดูซิเมอร์ ก็มี ลักษณะคล้ายกัน แต่การดีดจะต้องออกแรงมากกว่า ซอสเตอรรี่เป็นเครื่องนำร่องให้กับเปียโนโบราณ ที่เรียกว่า “ฮาฟซิกคอร์ด”(harpsichord) สายเปียโนส่วนใหญ่เป็นเส้นลวด แต่ก็ไม่เสมอไป จากต้นกำเนิดดังกล่าว พิณและเปียโน เป็นเครื่องดนตรีที่มีสายที่ทำจาก ทองเหลือง ทอง เงิน ตะกั่ว ขนม้า และแม้แต่บางครั้งทำมาจากรากไม้ คลาวีคอร์ด มีลักษณะเหมือนเปียโนกล่องเล็กที่สามารถถือได้ ในปี ค.ศ. 1450 คีย์บอร์ด ได้มีการพัฒนาในการตั้งและวางสายที่เรียกว่า “สปินเน็ท” (spinet) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวอิตาเลียนที่ชื่อว่า “จีโอวานนิ สะปินเน็ท” (Giovanni Spinette) และต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีการนั่งเวลาเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ ระบบเสียงที่มีความไพเราะของเปียโน ที่ได้รับการประดิษฐ์สร้างสรร มีอานุภาพต่อผู้ที่ได้รับฟัง ขณะที่เล่นได้อย่างอัศจรรย์และยอดเยี่ยม




Picture1.jpg

Picture2.jpg


ซอสเตอร์รี่(psaltery)



Picture3.jpg

Picture4.jpg

ดูซิเมอร์ (dulcimer)

Picture5.jpg


ฮาฟซิกคอร์ด
1.เปียโนตั้งตรง
เปียโนแบบ upright ได้ถูกออกแบบมาเนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ และขนาดที่ใช้เก็บเปียโน โดยบอร์ดเสียงจะอยู่ด้านหน้าของนักเล่นแทนที่จะหันหน้าขึ้นเพดานในแบบของ แกรนด์เปียโน เปียโนแบบตั้งตรงได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยปัจจัยที่มีข้อได้เปรียบในเรื่องของโครงสร้างที่มีขนาดเล็กกว่า จึงทำให้เปียโนชนิดนี้ได้รับความนิยมทั่วยุโรป หรือแม้แต่ในอเมริกา เปียโนแบบตั้งตรงเก่าแก่ที่สุดที่พบถูกผลิตในปี 1739โดย Domenica del Mela เปียโนแบบตั้งตรงเป็นเปียโนที่มีสายและโครงวางในแนวตั้ง และขึงสายเปียตั้งแต่ด้านล่างจนถึงด้านบนของเปียโน แต่เปียโนประเภทนี้ไม่สามารถควบคุมการสร้างเสียงได้นุ่มนวลเท่าแกรนด์เปียโน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีเปียโนตั้งตรงได้พัฒนาคุณภาพเสียงมากขึ้น ในปี ค.ศ. 1863 เฮนรี ฟอร์โนว์ (Henry Fourneaux) ประดิษย์เปียโนที่สามารถเล่นตัวเองได้(player piano)โดยใช้ม้วนเหล็กที่เดินเครื่องกลในตัวเปียโน ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เริ่มมีการผลิตเปียโนดิจิตัลขึ้นใช้ โดยเลียนแบบเสียงของเปียโน เปียโนประเภทนี้เริ่มที่จะมีความซับซ้อนและการทำงานที่มากขึ้น โดยสามารถเลียนแบบชิ้นส่วนของเปียโนจริง เช่น น้ำหนักคีย์บอร์ด คันเหยียบ และเสียงเครื่องดนตรีอื่น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะทดแทนเปียโนเครื่องจริง

uprpiano.jpeg
2.แกรนด์เปียโน
คำว่า grand pianoforte ถูกตั้งโดย Robert Stodart ในปี 1777 ซึ่งเขาได้เป็นผู้ริเริ่มพัฒนา รูปแบบของเปียโนสายพันธุ์อังกฤษชนิดนี้ ต่อจากนั้น ช่วงปี 1890 John Broadwoodได้สานต่อ จนทำให้เปียโนชนิดนี้มีพัฒนาการที่ก้าวไปอย่างมาก อีกทางหนึ่งในปี 1808 Erard ได้พัฒนาโครงสร้างของเปียโนในรูปแบบของ Cristofori โดยเมื่อเทียบกับเปียโนตามแบบฉบับของอังกฤษแล้ว การตอบสนองเรื่องความเร็วของเสียงจะเร็วกว่า เสียงกังวานกว่า และมีความแน่นอนกว่า โดยในปัจจุบัน ก็ยังใช้เปียโนในรูปแบบที่พัฒนาโดย Erard อยู่ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนายังมีอย่างต่อเนื่องทั่วยุโรปและในอเมริกา จนปัจจุบันทำให้รูปแบบของแกรนด์เปียโนมีความเป็นมาตรฐานอย่างมาก แกรนด์เปียโน เป็นเปียโนที่มีสายและโครงวางในแนวนอน โดยที่สายเสียงนั้นจะถูกขึงออกจากคีย์บอร์ด ซึ่งทำให้มีเสียงและลักษณะที่ต่างออกไปจากเปียโนตั้งตรงแต่จะใช้ที่ทางมาก ทั้งยังจำเป็นต้องหาห้องที่มีการสะท้อนเสียงที่พอเหมาะสำหรับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ในบรรดาแกรนด์เปียโนเองยังมีหลายขนาดและประเภท ซึ่งอาจจะแตกต่างกันตามผู้ผลิตหรือรุ่น แต่ก็ยังสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ เช่น คอนเสิร์ตแกรนด์ ที่มีขนาดประมาน 3 เมตร แกรนด์ ที่มีขนาดประมาน 1.8 เมตร หรือ เบบี้แกรนด์ ที่มักจะสั้นกว่าความกว้าง. เปียโนที่มีความยาวจะสร้างเสียงที่ดีกว่าและเพี้ยนน้อยกว่าเปียโนเครื่องอื่นๆ แกรนด์เปียโนใหญ่จึงเป็นที่นิยมใช้ในคอนเสิร์ต

Picture6.jpg





ศิลปินที่สำคัญทางเปียโน

Johann Sebastian Bach (ค.ศ.1685-1750)

bach_junger-Mann.jpg
The 1748 Haussmann portrait of the composer
Born:::March 21 (O.S.), 1685 Eisenach, Thuringia, Germany
Died:::July 28 (N.S.), 1750 Leipzig, Saxony, Germany

- บุคคลในยุคบุกเบิก เขาเคยได้รับเชิญให้เล่นเปียโนในราชวังของกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย Frederickจนทำให้ผู้คนรู้จักเปียโนฟอร์เต้มากขึ้น




Franz Joseph Haydn (ค.ศ.1732-1809)
Haydn_portrait_by_Thomas_Hardy_(small).jpg
March 31 or April 1, 1732 – May 31, 1809

- เขาได้รับการขนานนาม ว่าเป็นบิดาแห่งซิมโฟนี(The father of Symphony) เขาแต่งเพลงชาติออสเตรีย ซึ่งต่อมากลายเป็น เพลงชาติเยอรมันในปัจจุบัน



Wolfgang Amadeus Mozart (ค.ศ.1756-1791)
168px-Wolfgang-amadeus-mozart_1.jpg
Painting by Barbara Krafft 1819
Born::: January 27, 1756 Salzburg, Austria (then part of the Holy Roman Empire)
Died::: December 5, 1791 Vienna, Austria (aged 35)

- เขาเริ่มประพันธ์ดนตรีตอนอายุ 5 ขวบ เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นเด็กมหัศจรรย์ในช่วงวัยเด็ก เนื่องจากเก่งกว่าเด็กทั่วไปมาก




Ludwig Van Beethoven (ค.ศ.1770-1827)
240px-Beethoven.jpg

- เขาเล่นดนตรีเพื่อออกแสดงหาเงินตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ ทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่มีความสุข แต่เขาเป็นเด็กที่มีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัว และไม่ท้อแท้ต่อการฝึกฝนดนตรี



Franz Seraph Peter Schubert (ค.ศ. 1797-1828)
Schubert.jpg

- เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็มีความเพลิดเพลินกับการเล่นดนตรี เขามีพรสวรรค์ทางดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ครูหลายคนตะลึงในความสามารถของเขาที่รอบรู้กว่าเด็กในวัยเดียวกัน




Frederic Francois Chopin (ค.ศ.1810-1849)
180px-Frederic_Chopin_photo.jpeg

- เขาเป็นคนรักอิสระสูง มีความรักชาติ และเป็นคนขี้อาย ตั้งแต่เด็กเขาได้รับการสอนและปลูกฝังตามแนวทางดนตรีของ Mozart และ Beethoven เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นกวีแห่งเปียโน
อ้างอิง
http://ploypiano.wikispaces.com/...%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%99...
https://www.google.co.th/search?client=firefox-b-ab&biw=1252&bih=611&tbm=isch&sa=1&btnG=%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2&q=piano 



 นายรพี  แสนสุข 5881119033 D9

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น